รีวิว iPhone 11 Pro Max สเปคเร็วแรง แบตอึดสะใจ ใช้ 2 ซิมได้

iPhone 11 Pro Max สมาร์ทโฟนเรือธงจากทาง Apple มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ OLED Super Retina XDA ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ไร้ขอบ ใช้ชิปเซ็ต A13 Bionic ที่เร็วแรงที่สุด กล้องหลัง Triple Camera กล้องหน้า TrueDepth แบตเตอรี่อึดสะใจ และยังรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมอีกด้วย

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องถูกครอบทับด้วยกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ส่วนกรอบผลิตจากวัสดุประเภทสแตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรงทนทาน มีขนาด 158x77.8x8.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 226 กรัม

ด้านหลัง มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera)  อีกทั้งตัวเครื่องยังสามารถป้องกันน้ำ ป้องกันฝุ่นมาตราฐาน IP68 อีกด้วย มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี  ได้แก่ สีทอง (Gold), สีเทา (Space Gray),  สีเงิน (Silver) และสีเขียว (Midnight Green)

หน้าจอ

iPhone 11 Pro Max มาพร้อมหน้าจอ Super Retina XDA ไร้ขอบ ขนาด6.5 นิ้ว  ความละเอียด 1242x2688 พิกเซล (458 ppi) มีจุดเด่นด้านค่าความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1200 nits พร้อมค่า Contrast Ratio ระดับ 2,000,000:1

ด้านบนหน้าจอ เป็นรอยบาก (Notch) สำหรับกล้องหน้าแบบ TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  ที่มีรูรับแสง F/2.2 และ Dot Projector

ระบบปฎิบัติการ

iPhone 11 Pro Max มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 13 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Apple A13 Bionic แบบ 6-แกน (Hexa-Core) บนสถาปัตยกรรมระดับ 7nm ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน 20% พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น 40% และมีหน่วยประมวลผลแยกแบบ Octa-Core Neural Engine 3rd Gen รวมถึงรองรับเทคโนโลยี Core ML 3 การประมวลผลกราฟิก ใช้หน่วยประมวลผลแบบ 4-แกน (Quad-Core Apple GPU)

ทดสอบประสิทธิภาพ  iPhone 11 Pro Max

-ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 560,534 คะแนน

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ ขนาด 3,969 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (ชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์แบบ 18W) และรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย

กล้อง

สำหรับกล้องหน้า ของ iPhone 11 Pro Max เป็นแบบ TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.2) สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือ Portrait ได้ด้วยกล้องหน้า และสามารถปรับแสงแบบ 3 มิติ (Portrait Lighting) ได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ Natural Light (Default), Studio Light, Contour Light, Stage Light, Stage Light Mono และ High-Key Light Mono

ส่วนกล้องหลัง มีมาให้ 3 ตัว (Triple Camera) ได้แก่

-กล้องตัวหลักเลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.8) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical และ Focus Pixels 100%,

-กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.4) เก็บภาพมุมกว้างสุด 120 องศา

-กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/2.0) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical รองรับการซูมแบบ 2x Optical Zoom และ 6x Digital Zoom รวมถึงรองรับโหมด Night สำหรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน

การถ่ายวิดีโอ  สามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดในโหมดปกติได้ที่ระดับ 4K UHD 60 fps โดยรองรับการบันทึกวิดีโอทั้งในมุมปกติ (1x), มุมกว้างแบบ Ultra-Wide (0.5x) และการซูมแบบ Optical ที่ 2 เท่า (2x) รวมถึงรองรับการซูมภาพแบบ Digital Zoom ที่ 6 เท่า พร้อมกับระบบเสียงแบบ Stereo

สเปกตัวเครื่อง iPhone 11 Pro Max

-ขนาดตัวเครื่อง : 158.0 x 77.8 x 8.1 มิลลิเมตร

-น้ำหนัก : 226 กรัม

-หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2688 x 1242 พิกเซล, 458ppi รองรับ HDR, อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1

-หน่วยประมวลผล : A13 Bionic

-ROM 64/256/512 GB

-ระบบปฎิบัติการ iOS 13

-กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์แบ่งเป็น

-เลนส์หลัก (Wide) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8

-เลนส์ Ultra Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

-เลนส์ Telephoto 2x ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

-กล้องหน้า (TrueDepth) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

-รองรับการใช้งานซิมคู่ (Nano-SIM และ eSIM)

-รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.0, NFC

และพอร์ต Lightning

- มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีทอง (Gold), สีเทา (Space Gray),  สีเงิน (Silver) และสีเขียว (Midnight Green)

- แบ่งออกเป็น 3 รุ่นความจุ ดังนี้

- รุ่นความจุ 64GB ราคา 39,900 บาท

- รุ่นความจุ 256GB ราคา 45,900 บาท

- รุ่นความจุ 512GB ราคา 52,900 บาท